วันนี้ขอนำเสนอบลอคในบทความเรื่อง มงคลชีวิต
38 ประการ
เรามาดูคำว่ามงคลชีวิตว่าความหมายดีและสำคัญต่อการดำรงชีวิตของเราในชาตินี้อย่างไร
เรามาดูคำว่ามงคลชีวิตว่าความหมายดีและสำคัญต่อการดำรงชีวิตของเราในชาตินี้อย่างไร
มีผู้รู้หลายท่านกล่าวว่า มงคล
คือทางก้าวหน้า ความสุข ความเจริญ
สำหรับพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายไว้ว่า มงคล คือเหตุที่นำมาซึ่งความเจริญ
คำว่า มงคลชีวิต จึงรวมความได้ว่า
คือเหตุแห่งความสุขและความเจริญก้าวหน้าของชีวิต
เป็นสูตรที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้เป็นข้อความประพฤติปฏิบัติ ซึ่งมีอยู่ 38 ประการด้วยกัน
มงคล : เหตุแห่งความเจริญก้าวหน้า
ความเจริญก้าวหน้าแบ่งได้เป็น 3 ระดับ คือ
1.ความเจริญก้าวหน้าในโลกนี้ เช่น เมื่อเป็นเด็กก็ประสบความสำเร็จในการศึกษาเล่าเรียน
เมื่อเติบโตขึ้นก็สามารถตั้งฐานะได้ มีทรัพย์สมบัติมาก มีชื่อเสียง
มีตำแหน่งหน้าที่การงานดี มีครอบครัวดี เป็นต้น
2. ความเจริญก้าวหน้าในโลกหน้า หมายถึง
เป็นผู้สั่งสมบุญกุศลไว้ดี เมื่อละจากโลกนี้ก็ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์
3. การบรรลุมรรคผลนิพพาน ซึ่งเป็นความเจริญก้าวหน้าในระดับสูงสุด
การปฏิบัติตามหลักมงคลชีวิต
จะเป็นเหตุนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าทั้ง 3 ระดับนี้ เพราะผู้ปฏิบัติตามหลักมงคลชีวิต
โดยเนื้อหาก็คือ เป็นการหลีกเลี่ยงเหตุแห่งความเสื่อมทั้งหลาย และทำความดีด้วยกาย
วาจา ใจ ทั้งเบื้องต้น เบื้องกลาง และเบื้องสูง ทำให้เกิดสติและปัญญา
อันเป็นเครื่องทำลายอุปสรรคของชีวิต ตลอดจนความชั่วความบาปต่าง ๆ จึงส่งผลเป็นความเจริญก้าวหน้าทั้งชาตินี้
ชาติหน้า จนถึงการบรรลุมรรคผลนิพพานในที่สุด
เรามาศึกษามงคลข้อที่ ๑ ไม่คบคนพาล กันได้เลย
มงคลที่ 1 ไม่คบคนพาล
ใบไม้ที่ห่อหุ้มปลาเน่า
ย่อมต้องพลอยแปดเปื้อนเหม็นเน่าไปด้วยฉันใด
ผู้ที่คบคนพาล
ก็ย่อมต้องพลอยเสียชื่อเสียง ติดความเป็นพาล
เดือดร้อนเสียหายไปด้วยฉันนั้น
คนพาลคือใคร ?
คนพาล คือคนที่มีใจขุ่นมัวเป็นปกติ
เป็นผลให้มีความเห็นผิด ยึดถือค่านิยมผิด ๆ และมีวินิจฉัยเสีย คือ
ไม่รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรควร อะไรไม่ควร เช่น บัณฑิตเห็นว่า “เหล้า”
เป็นของไม่ดี ทำให้ขาดสติ นำความเสื่อมมาให้นานัปการ แต่คนพาลกลับเห็นว่า “เหล้า”
เป็นของประเสริฐ เป็นเครื่องกระชับมิตร หรือบัณฑิตเห็นว่า “การเล่นไพ่”
เป็นอบายมุข เป็นปากทาง หรือเป็นสัญลักษณ์แห่งความฉิบหาย แต่คนพาลกลับเห็นว่า “การเล่นไพ่”
เป็นสิ่งดีทำให้เพลิดเพลิน เป็นการฝึกสมองซ้อมวิชาคำนวณ ดังนี้เป็นต้น
คนพาลมีลักษณะเป็นคนเหมือนกับเรา
คือมีร่างกายประกอบด้วยเลือดเนื้อเช่นเดียวกับเราและอาจมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับเราก็ได้
เช่นเป็นญาติพี่น้อง สามีภรรยา ครูอาจารย์ ฯลฯ อาจเป็นผู้มีการศึกษาสูง
อาจมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง อาจมีสมัครพรรคพวกมาก แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร มีความสัมพันธ์กับเราหรือไม่
ขึ้นชื่อว่าพาลแล้ว ถึงแม้จะมีความรู้มีความสามารถ
ก็ไม่ใช้ความรู้ความสามารถในทางที่ถูกที่ควร เพราะเขาแสลงต่อความดี
เหมือนคนไข้แสลงต่อน้ำเย็น
ลักษณะของคนพาล
เนื่องจากคนพาลมีใจขุ่นมัวอยู่เสมอ
ทำให้ไม่สามารถควบคุมใจให้คิดไปในทางที่ถูกต้องได้
คนพาลจึงมีลักษณะวิปริตผิดจากคนทั้งหลาย 3 ประการ
คือ
1.ชอบคิดชั่วเป็นปกติ ได้แก่
คิดละโมบอยากได้ในทางทุจริต คิดพยาบาทปองร้าย คิดเห็นผิดเป็นชอบ
2.ชอบพูดชั่วเป็นปกติ ได้แก่ พูดปด พูดคำหยาบ พูดส่อเสียดยุยง พูดเพ้อเจ้อ
3.ชอบทำชั่วเป็นปกติ ได้แก่ เกะกะเกเร กินเหล้าเมายา ชอบล้างผลาญชีวิตคนและสัตว์ ลักทรัพย์
ฉุดคร่าอนาจาร
โทษของความเป็นคนพาล
1.มีความเห็นผิด ก่อทุกข์ให้ตนเอง
2.เสียชื่อเสียง ถูกติฉินนินทา
3.ไม่มีคนนับถือ ถูกเกลียดชัง
4.หมดสิริมงคล หมดสง่าราศี
5.ความชั่วเภทภัยทั้งหลาย
จะไหลเข้ามาหาตัว
6.ทำลายประโยชน์ของตนเองทั้งโลกนี้และโลกหน้า
7.ทำลายวงศ์ตระกูลของตนเอง
8.เมื่อละโลกไปแล้วมีอบายภูมิเป็นที่ไป
วิธีสังเกตคนพาล
คนพาลมักกระทำในสิ่งต่อไปนี้ คือ
1.คนพาลชอบชักนำในทางที่ผิด
ชัก
คือชักชวน เชิญชวน ชี้ชวน หรือเสนอแนะ
นำ คือการทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง
เช่น ชักชวนหนีโรงเรียน ชักชวนไปลักขโมย
ชักชวนให้เสพยาบ้า เสพยาเสพติด ชักนำไปเป็นอันธพาล
การชักนำนี้อาจทำด้วยความหวังดีก็ได้แต่ว่ามันผิด เช่น
ได้เงินมาก็ชักชวนเพื่อนไปเลี้ยงเหล้า เที่ยวกลางคืน อย่างนี้ก็จัดว่าเป็นพาล
ผู้ที่ยังเยาว์วัย อ่อนความคิด อ่อนสติ
มักถูกชักนำได้โดยง่าย ฉะนั้นผู้ใหญ่ในบ้านจึงควรระมัดระวังการกระทำและคำพูด
ทั้งของตนเองและผู้ที่มาติดต่อคบหา เพราะเด็กมักจะจำและทำตามอย่างด้วยความไม่รู้
แม้ผู้ใหญ่ทำสิ่งไม่ดี เด็กก็มักเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีควรกระทำ
2.คนพาลชอบทำในสิ่งที่ไม่ใช่ธุระ
เกะกะเกเร หน้าที่การงานของตนไม่พยายามจัดการให้เรียบร้อย
แต่ชอบไปก้าวก่ายหน้าที่การงานของผู้อื่น เช่น จับผิดผู้ร่วมงาน เขียนบัตรสนเท่ห์
กลั่นแกล้ง รังแก ทำความรบกวนให้เดือดร้อน
3.คนพาลชอบแต่สิ่งผิด ๆ
ชอบถือเอาสิ่งที่ชั่วว่าเป็นสิ่งที่ดี เช่น
ชอบเล่นไพ่ ชอบสูบบุหรี่ ชอบหนีโรงเรียน ชอบเถียงพ่อแม่ เห็นคนทำถูกเป็นคนโง่
เห็นคนกลัวผิดเป็นคนขี้ขลาด
4.คนพาลแม้พูดดี ๆ ก็โกรธ เช่น
เตือนให้ดูหนังสือตอนใกล้สอบก็โกรธ เตือนให้ตื่นเช้าก็โกรธ
แค่มองหน้าบางครั้งก็ยังโกรธ
5.คนพาลไม่ยอมรับรู้ระเบียบวินัย
เช่น ไม่ชอบข้ามถนนตรงทางม้าลาย
พฤติกรรมที่เรียกว่า “คบ” คืออย่างไร ?
คบ
หมายถึงพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ คือ
ร่วม เช่น
ร่วมกิน ร่วมนอน ร่วมก่อการ ร่วมหุ้น ร่วมลงทุน
รับ เช่น
รับเป็นเพื่อน รับเป็นภรรยาหรือสามี รับไว้ทำงาน รับฟังสิ่งที่คนพาลพูดหรือเขียน
ให้ เช่น
ให้ความไว้วางใจ ให้คำชมเชย ให้ยศ ให้ตำแหน่ง ให้หยิบยืมสิ่งของ ให้การสนับสนุน
การไม่คบคนพาล
คือการไม่ยอมมีพฤติกรรมสัมพันธ์ใด ๆ ดังกล่าวข้างต้นกับคนพาล ถ้าเรายังคบคนพาลอยู่
ไม่ว่าจะในระดับไหนก็ตาม รีบถอนตัวเสียโดยด่วน อย่าประมาท รีบตัดไฟเสียแต่ต้นลม
มิฉะนั้นจะพลาด ติดเชื้อพาลโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นพาลตามไปด้วย
โบราณท่านให้คติเตือนใจไว้ว่า
ห่างสุนัขให้ห่างศอก
ห่างวอกให้ห่างวา
ห่างพาลาให้ห่างหมื่นโยชน์แสนโยชน์
โทษของการคบคนพาล
1.ย่อมถูกชักนำไปในทางที่ผิด
2.ย่อมเกิดความหายนะ การงานล้มเหลว
3.ย่อมถูกมองในแง่ร้าย
ไม่ได้รับความไว้วางใจจากบุคคลทั่วไป
4.ย่อมอึดอัดใจ เพราะคนพาลแม้เราพูดดี ๆ
ด้วยก็โกรธ
5.หมู่คณะย่อมแตกความสามัคคีเพราะการยุยงและไม่ยอมรับรู้ระเบียบวินัย
6.ภัยอันตรายต่างๆ ย่อมไหลเข้ามาหาตัว
7.เมื่อละโลกแล้ว ย่อมมีอบายภูมิเป็นที่ไป
ปลาร้าพันห่อด้วย ใบคา
ใบก็เหม็นคาวปลา คละคลุ้ง
คือคนหมู่ไปหา คบเพื่อน พาลนา
ได้แต่รายร้ายฟุ้ง เฟื่องให้เสียพงศ์
(สุภาษิตโคลงโลกนิติ)
ประเภทของคนพาล
คนพาลมี 2
ประเภท ได้แก่
1.พาลภายนอก คือ
คนพาลทั่วไป ซึ่งแม้จะร้ายกาจเพียงใด เราก็ยังมีทางหลีกเลี่ยงได้
แต่มีพาลอีกประเภทหนึ่งที่ร้ายยิ่งกว่า
เพราะมักเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวและไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ คือ พาลภายใน
2.พาลภายใน คือ ตัวเราเองขณะที่คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว เช่น หนีงานบ้าง เที่ยวเกเร
ไปยุ่งธุระคนอื่นโดยใช่เหตุบ้าง ชอบไปทำงานสายบ้าง คนอื่นเตือนดี ๆ ก็โกรธบ้าง
หลีกเลี่ยงวินัยบ้าง พูดไม่ไพเราะบ้าง ครั้งใดที่เราทำเช่นนี้
ครั้งนั้นเราเองนั่นแหละคือตัวพาล มีเชื้อพาลอยู่ภายใน ต้องรีบแก้ไข
หลักปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
1.หมั่นห้ามใจตนเองจากความชั่วแม้เพียงเล็กน้อย
ก่อนที่มันจะลุกลามต่อไป เช่น การนอนตื่นสาย ทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง
หรือปล่อยให้ที่อยู่อาศัยรกรุงรังไม่หมั่นทำความสะอาด
2.อย่าตามนึกถึงความชั่ว
ความผิดพลาดในอดีต ทั้งของตนเองและผู้อื่น
ผ่านไปแล้วก็ให้แล้วกันไป ถือเป็นบทเรียนที่จะไม่ยอมทำซ้ำอีก
แล้วตั้งใจทำความดีไหม่ให้เต็มที่
3.ตั้งใจให้ทาน รักษาศีล
เจริญสมาธิภาวนาอย่างสม่ำเสมอ
4.หลีกเลี่ยงการอ่าน การฟัง
การพูด เรื่องเกี่ยวกับคนพาล จะได้ไม่สะสมความคิดเกี่ยวกับพาลไว้ในใจ
พยายามสะสมแต่ความคิดที่ดีงามโดย การอ่าน การฟัง การพูด แต่สิ่งที่ดีงาม เช่น
อ่านหนังสือธรรมะ ฟังเทศน์ สนทนาธรรม พูดถึงคนที่ทำคุณความดี
5.ถ้าจำเป็นต้องอยู่ใกล้คนพาลอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
เช่น ทำงานในที่เดียวกัน เป็นญาติพี่น้องกัน
ในกรณีเช่นนี้เราต้องระลึกอยู่เสมอว่า เรากำลังอยู่ใกล้สิ่งที่เป็นอันตราย
เหมือนอยู่ใกล้คนเป็นโรคติดต่อ ต้องระวังตัวคือระวังความเป็นพาลของเขาจะมาติดเราเข้า
ต้องหมั่นให้ทาน รักษาศีล ทำสมาธิ เพื่อให้ใจผ่องใสอยู่เสมอ
เราต้องระลึกเสมอว่า
หน้าที่อันยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในชีวิต
ไม่มีอะไรยิ่งไปกว่าการปราบพาลภายในตัวเราเอง
อานิสงส์การไม่คบคนพาล
1.ทำให้ไม่ถูกชักจูงไปในทางที่ผิด
2.ทำให้สามารถรักษาความดีเดิมไว้ได้
3.ทำให้สามารถสร้างความดีใหม่เพิ่มขึ้นได้อีก
4.ทำให้ไม่ถูกคนพาลทำร้าย
5.ทำให้ไม่ถูกตำหนิ ไม่ถูกใส่ความ
6.ทำให้ไม่ถูกมองในแง่ร้าย
ได้รับความไว้วางใจจากบุคคลทั่วไป
7.ทำให้มีความเจริญก้าวหน้า
สามารถตั้งตัวได้เร็ว
8.ทำให้มีความสุขทั้งตนเอง ครอบครัว
และประเทศชาติ
9.เป็นการตัดกำลังไม่ให้เชื้อพาลระบาดไป
เพราะขาดคนสนับสนุน
ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ให้ผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
บาปให้ผลเมื่อใด
คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น
ที่มา
:
ขุ. ธ. 25/15/24
Cr.มงคลชีวิต(ฉบับทางก้าวหน้า)
Cr.มงคลชีวิต(ฉบับทางก้าวหน้า)
ข้อคิดจากมงคลชีวิตข้อที่
1 ไม่คบคนพาล
จะเห็นว่าการเลือกคบคนเป็นสิ่งสำคัญมากๆ
บิดามารดาควรหาครูดีโรงเรียนที่ดีให้บุตรและควรช่วยดูและคัดสรรเพื่อนที่ดีให้กับบุตร
และตัวเราเองควรเลือกคบหาเพื่อนที่ดีที่เป็นบัณฑิตคือผู้ที่อุดมด้วยศีล
สมาธิและปัญญาเป็นมิตร เพื่อเราจะได้พบหนทางที่เป็นหลักที่ดีในการดำเนินชีวิตและถูกต้อง
ในแต่ละวัน แล้วชีวิตเราจะปลอดภัยในสังสารวัฏ
ชาตินี้ถ้าเราไม่สามารถดำรงตนให้ข้ามพ้นมงคลชีวิตข้อที่
1
คือ การไม่คบคนพาลไปได้ มงคลชีวิตอีก 37 ข้อเป็นอันหมดหวังจิตใจจะเศร้าหมอง
คนเราเกิดมาไม่สูญเมื่อละโลกจะต้องไปเกิดตามแรงกรรมที่ตนได้กระทำไว้ตอนเป็นมนุษย์
ถ้าช่วงที่เป็นมนุษย์เราเกิดมาเป็นบุคคลที่มีบุญสอนตนเองได้และรู้จักคบเพื่อที่ดีที่เป็นบัณฑิต
ก็จะทำให้เราดำเนินชีวิตด้วยความไม่ผิดพลาด ชีวิตเราก็จะมีแต่สิ่งที่ดีๆติดตัวเรา คือ
หมั่นเข้าวัดบำเพ็ญบุญเมื่อละโลก เมื่อถึงคราละโลกเราก็ไปสู่สุคติภูมิ แต่ถ้าเราเมื่อยังเป็นมนุษย์ดำเนินชีวิตผิดพลาดคบเพื่อนพาลเป็นอาจิณ
กระทำแต่สิ่งที่ผิดพลาด ศีลก็ถือไม่ได้สักข้อ เมื่อถึงเวลาละโลกก็ไปสู่อบายนั่นเอง
จะเห็นว่าชีวิตเราเกิดมาเป็นโมฆะเลยทีเดียว ชีวิตมีแต่ติดลบ
ที่เรียกว่าเกิดมาชาติหนึ่งเอาดีไม่ได้ที่พูดภาษาชาวบ้านว่าชาตินี้เกิดมาเสียชาติเกิดกันเลยทีเดียว
จะเห็นว่ามงคลชีวิตข้อที่ 1
การไม่คบคนพาลนั้นสำคัญมากที่สุด
กราบอนุโมทนาบุญกราบขอบพระคุณที่มาความสมบูรณ์ของบลอค :
พระธรรมเทศนาโดยหลวงพ่อทัตตชีโว วัดพระธรรมกาย เรื่องมงคลชีวิต 38 ประการ
ตอนมงคลที่ 1 ไม่คบคนพาล
บทความมงคลชีวิต 38 ประการ ตอนมงคลที่ 1 ไม่คบคนพาล (ฉบับทางก้าวหน้า)
เพลง มงคลชีวิต 38 ประการ
ตอนมงคลที่ 1 ไม่คบคนพาล
บทความมงคลชีวิต 38 ประการ ตอนมงคลที่ 1 ไม่คบคนพาล (ฉบับทางก้าวหน้า)
เพลง มงคลชีวิต 38 ประการ
น้อมกราบอนุโมทน่สาธุครับ
ตอบลบสาธุคะ
ตอบลบสาธุ สาธุ สาธุ
ตอบลบ