คู่มือชีวิต ตอนที่ 2 มงคลชีวิต 38 ประการ
มงคลหมู่ที่ 6 ปรับเตรียมสภาพใจให้พร้อม
มงคลที่ 19 งดเว้นจากบาป
มงคลที่ 20 สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
มงคลที่ 21 ไม่ประมาทในธรรม
ในการปรับเตรียมสภาพใจให้พร้อม เพื่อจะฝึกใจให้มีคุณธรรมมากขึ้น มีกิเลสเบาบางลงตามลำดับนั้น เราต้องทำดังนี้
1.งดเว้นจากบาป คนที่ยังทำบาปสารพัดอยู่ ไม่ยอมเลิก ไม่มีทางที่จะฝึกใจได้เลย เพราะบาปนั้นจะมาหุ้มใจ ทำให้ใจเสียคุณภาพ รองรับธรรมะไม่ได้ ดังนั้นสำหรับผู้ต้องการฝึกใจ อะไรที่เป็นความชั่วที่ทำไปแล้ว ทำให้ใจของเราเศร้าหมอง เสียคุณภาพอันดีไป ที่เคยทำอยู่ก็จะต้องงดเสีย ที่ไม่เคยทำก็จะต้องละเว้นไม่ยอมทำโดยเด็ดขาด
2.สำรวมจากการดื่มน้ำเมา เพราะของมึนเมาเสพย์ติดทั้งหลายจะทำให้เราขาดสติ และใจที่ขาดสตินั้นก็ไม่สามารถฝึกได้ ใครไม่เชื่อจะลองดูก็ได้ ลองไปพูดธรรมะให้คนเมาเหล้าฟัง ดูซิว่าเขาจะรู้เรื่องไหม
3.ไม่ประมาทในธรรม ผู้ที่ประมาทมักจะปล่อยชีวิตไปตามยถากรรมคิดแต่ว่า “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เรายังอายุน้อยอยู่” หรือ “ไม่เป็นไรหรอกน่า เรายังมีชีวิตอีกนาน ทำเมื่อไรก็ได้” เขาเหล่านี้เมาแล้วในความเป็นหนุ่มเป็นสาว ในความไม่มีโรค ในความคิดว่ายังไม่ตาย จึงไม่ยอมทำความดี
ส่วนผู้ที่ไม่ประมาทในธรรม จะคิดเสมอว่าคนเราอาจป่วยขึ้นมาเมื่อใด หรือตายเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครรู้ มัจจุราชไม่มีเครื่องหมายนำหน้า ไม่มีการบอกก่อนเพราะฉะนั้นจึงไม่ประมาท รีบขวนขวายสร้างบุญสร้างกุศลตั้งใจฝึกตนเอง ซึ่งใจของคนอย่างนี้จะมีความกระตือรือร้น พร้อมที่จะรับการฝึกกุศลธรรมทั้งหลายให้สามารถเจริญขึ้นได้โดยง่าย
มงคลหมู่ที่ 7 การแสวงหาธรรมะเบื้องต้นใส่ตัว
มงคลที่ 22 มีความเคารพ
มงคลที่ 23 มีความถ่อมตน
มงคลที่ 24 มีความสันโดษ
มงคลที่ 25 มีความกตัญญู
มงคลที่ 26 ฟังธรรมตามกาล
เมื่อเราเตรียมสภาพใจของเราไว้พร้อมแล้ว จากมงคลหมู่ที่ 6 เมื่อถึงมงคลหมู่ที่ 7 นี้ ก็เริ่มลงมือแสวงหาธรรมะเบื้องต้นใส่ตัวทีเดียว คราวนี้ผู้จะแสวงหาธรรมะใส่ตัวได้ ก็จำเป็นต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1.ต้องมีความเคารพ รู้และตระหนักถึงคุณความดีที่มีอยู่จริงของผู้อื่น ใครมีข้อดีอะไรก็รู้ ทำให้รู้ว่าจะเข้าไปหาคุณธรรมได้จากใคร
คนไม่มีความเคารพ จะเป็นคนที่มองใครก็ไม่เห็นมีอะไรดี เลวไปหมดก็เลยไม่สามารถหาธรรมะใส่ตัวได้ เพราะเมื่อมองไม่เห็นข้อดีของใครแล้วก็เลยไม่รู้จะไปเอาธรรมะจากใคร
2.ต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่อวดดื้อถือดี ไม่เบ่ง ไม่ยโสโอหัง รู้จักค่าของตนเองตรงตามความเป็นจริง พร้อมที่จะน้อมตัวลงรับเอาคุณความดีจากผู้อื่นมาใส่ตัวได้
คนที่มีความเคารพ รู้ว่าคนอื่นมีดีอะไร ถ้าหากขาดความอ่อนน้อมถ่อมตนเสียแล้ว ใจเขาจะพองขึ้นแข่งทันทีว่า ถึงใครจะแน่แต่ฉันก็หนึ่งเหมือนกัน ใจจะคอยแต่เบ่งคิดว่าตัวเก่งกว่าทุกที ก็เลยรับคุณธรรมของใครไม่ได้ เพราะคิดว่าตัวเก่งกว่าเสียแล้วนั่นเอง
เราดูมหาสมุทรเป็นที่รวมของน้ำได้ ก็เพราะพื้นผิวอยู่ต่ำกว่าแม่น้ำลำธารทั้งหลาย ถ้าเมื่อใดมหาสมุทรยกตัวสูงขึ้น น้ำก็จะไหลย้อนกลับรับน้ำไม่ได้อีกต่อไป คนเราก็เช่นกัน ถ้าขาดความอ่อนน้อมถ่อมตน อวดเบ่ง ยกตัวเราสูงขึ้นกว่าแล้ว ก็จะรับเอาคุณธรรมใครไม่ได้
3.ต้องมีความสันโดษ เป็นคนรู้จักพอ รู้จักประมาณ สุขใจพอใจกับของของตน ทำให้จิตใจสงบ สามารถรองรับคุณธรรมจากผู้อื่นได้เต็มที่
คนที่ขาดสันโดษ ใจของเขาจะเต็มไปด้วยความเร่าร้อนกระวนกระวายกระหายอยากได้ มีสิบล้านก็ไม่พอ จะเอาร้อยล้าน มีร้อยล้านก็ไม่พอจะเอาพันล้าน หมื่นล้าน ไม่รู้จักอิ่ม ซึ่งใจของคนชนิดนี้ไม่สามารถจะรองรับคุณธรรมได้ ไปฟังพระเทศน์เท่าไรก็ไม่ซึมเข้าไปอยู่ในใจ ลืมตาหลับตาเขามองเห็นแต่ตัวเลข คิดแต่ว่าอยากรวยๆ ธรรมะนึกไม่ออก
4.ต้องมีความกตัญญู ใครเคยทำคุณอะไรไว้ให้ตัวก็ตระหนักซาบซึ้งถึงบุญคุณ พยายามหาทางตอบแทน ทำให้เป็นคนน่ารัก น่าเอ็นดู น่านับถือใครๆ ก็เมตตาอยากถ่ายทอดวิชาความรู้ คุณความดีต่างๆให้
เพราะแม้เราจะมีความเคารพ รู้ข้อดีของคนอื่น มีจุดหมายแล้วว่าจะไปถ่ายทอดเอาคุณธรรมนั้นๆ ได้จากใคร มีความถ่อมตน ใจเราก็พร้อมจะน้อมไปรับคุณธรรมนั้น และมีความสันโดษ คือใจก็สงบพอที่จะรับเอาธรรมะนั้นๆมาไตร่ตรองให้เข้าใจได้ แต่ก็ยังไม่แน่นะว่าเขาจะยอมสอนเราหรือเปล่า เราต้องเป็นคนมีความกตัญญูรู้คุณคนด้วย คนอื่นจึงจะเมตตาสอนให้เรา
5.ฟังธรรมตามกาล เมื่อฝึกตัวเองมาครบ 4 ข้อข้างต้นแล้ว ก็ไปฟังธรรมะจากผู้ทรงคุณธรรมในทุกๆ โอกาสที่อำนวยให้
และอาศัยธรรมะที่ฟังนั้นๆ มาเป็นกระจกส่องใจเราให้เห็นว่า ตัวเรามีคุณธรรมมากน้อยเพียงใด มีข้อบกพร่องตรงไหน จะได้ปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น
มงคลหมู่ที่ 8 การแสวงหาธรรมะเบื้องสูงใส่ตัวให้เต็มที่
มงคลที่ 27 มีความอดทน
มงคลที่ 28 เป็นคนว่าง่าย
มงคลที่ 29 เห็นสมณะ
มงคลที่ 30 สนทนาธรรมตามกาล
เมื่อเราฝึกจนได้คุณธรรมเบื้องต้นต่างๆ จากการฟังธรรมตามกาลแล้ว ก็ต้องฝึกหาคุณธรรมเบื้องสูงต่อไป โดย
1.มีความอดทน ทั้งทนแดด ทนฝน ทนร้อน ทนหนาว ทนความปวดเมื่อยทางกาย ทนต่อความเจ็บใจ ทนต่ออำนาจของกิเลส ทนสารพัดอย่างละ จะเอาธรรมะต้องทนได้
2.เป็นคนว่าง่าย คือไม่ว่าจะสั่งสอนด้วยคำพูดอย่างไร ไพเราะหรือไม่ก็ตาม ไม่โต้เถียง ไม่แสดงท่าทีอึดอัดขัดใจ แต่น้อมรับฟังด้วยดี พูดง่ายๆ คือต้องสามารถอดทนต่อคำสั่งสอนได้นั่นเอง ท่านจะจ้ำจี้จ้ำไชอย่างไรต้องรับฟังและทำตามคำสั่งสอนด้วยดี
3.เห็นสมณะ คือไปหาตัวอย่างที่ดีดูเป็นแบบอย่าง หาพระภิกษุผู้ทรงคุณธรรม สงบกาย สงบวาจา สงบใจ
ธรรมะหลายๆ ข้อ ถ้าอธิบายธรรมดาๆ หลายคนก็เข้าใจยาก ไม่ค่อยจะยอมเชื่อ แต่พอเห็นสมณะ เห็นตัวอย่างแล้วก็เชื่อโดยไม่ต้องอธิบายก็มีมาก เช่น การรักษาศีล พระสอนว่าศีลทำให้เกิดสุข อธิบายมากมายเขาก็ยังไม่ยอมเชื่อ เถียงคอเป็นเอ็นว่าจะสุขไปได้อย่างไร มีข้อจำกัดสารพัด สู้คนไม่มีศีลไม่ได้สุขกว่า จะกินเหล้าก็กิน จะลักขโมยก็ลัก จะบี้มดตบยุงตามสบาย สุขกว่าเยอะ
แต่พอเห็นสมณะเข้าเท่านั้นแหละ ได้คิด “เอ! ท่านก็รักษาศีลนะ แล้วดูซิ หน้าตาผิวพรรณท่านก็ผ่องใส อิ่มเอิบดูมีความสุขจริงๆ” เท่านี้แหละไม่ต้องอธิบาย เกิดความเข้าใจแล้ว
4.สนทนาธรรมตามกาล คือเมื่อเห็นตัวอย่างจากสมณะแล้วเข้าใจธรรมะมากขึ้น แต่ถ้าหากยังมีข้อสงสัยอะไร ก็ให้ไปสนทนาซักถามจากท่านจนเข้าใจกระจ่าง หาธรรมะเบื้องสูงทั้งหลายใส่ตัวให้เต็มที่
เราจะเห็นว่าในมงคลหมู่ที่ 7 การหาธรรมะเบื้องต้นใส่ตัวจากการฟังธรรมตามกาล เนื่องแค่ฟัง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงให้เราเตรียมแค่การมีความเคารพ มีความถ่อมตน มีความสันโดษ และมีกตัญญูเท่านั้น
พอมาถึงมงคลหมู่ที่ 8 นี้ จะหาธรรมะเบื้องสูงใส่ตัวจากการสนทนาธรรมตามกาล พอต้องสนทนาเท่านั้นแหละ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงให้เราเตรียมตัวเพิ่มขึ้นมาอีก 2 ข้อ สั่งว่าเจ้าจะต้องมีความอดทนเสียก่อนนะ ทั้งทนแดด ทนร้อน ทนหนาว ทนต่อการกระทบกระทั่ง ทนต่ออำนาจกิเลส รวมทั้งต้องเป็นคนว่าง่าย คือต้องพร้อมที่จะรับฟังและทำตามคำสั่งสอนให้ได้เสียก่อนจึงค่อยไปหาสมณะแล้วสนทนาธรรมกับท่าน ไม่อย่างนั้นละก็ เดี๋ยวท่านสอนธรรมะลึกๆ อะไรให้ เผอิญมันขัดกับกิเลสในตัวเรา ท่านจ้ำจี้จ้ำไชหนักเข้าเลยพาลโกรธปึงปังไปแล้วจะพลาด ถ้าฝึกความอดทน ความว่าง่ายมาไม่พอ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงวางตำแหน่งมงคลต่างๆ ได้เหมาะเจาะเหลือเกิน ยิ่งเราศึกษามากเพียงใด ก็จะยิ่งซาบซึ้งในพระปัญญาคุณ และพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์มากขึ้นเพียงนั้น
มงคลหมู่ที่ 9 การฝึกภาคปฏิบัติเพื่อกำจัดกิเลสให้สิ้นไป
มงคลที่ 31 บำเพ็ญตบะ
มงคลที่ 32 ประพฤติพรหมจรรย์
มงคลที่ 33 เห็นอริยสัจจ์
มงคลที่ 34 ทำนิพพานให้แจ้ง
เมื่อจบมงคลหมู่ที่ 8 คือการแสวงหาธรรมะเบื้องสูงใส่ตัวเต็มที่แล้ว มงคลหมู่ที่ 9 นี้จะเป็นการลงมือปฏิบัติฝึกฝนอย่างจริงจัง เพื่อกำจัดกิเลสให้หมดไป โดย
1.บำเพ็ญตบะ ทำความเพียรเผากิเลสให้เร่าร้อนทนอยู่ไม่ได้ ต้องเผ่นหนีไปจากใจของเรา ธุดงควัตรมีกี่ข้อๆ ตั้งใจสมาทานรักษาเต็มที่ทีเดียว
2.ประพฤติพรหมจรรย์ คือเมื่อบำเพ็ญตบะจนกิเลสเบาบางลงไปแล้ว ก็ต้องตัดโลกียวิสัย ตัดเยื่อใยทุกอย่าง รีบปลูกฝังคุณธรรมต่างๆ ลงในใจก่อนที่กิเลสจะฟูกลับขึ้นมาอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องยกใจออกจากกามอันเป็นที่มาของความเสื่อม และจะนำความทุกข์นำกิเลสมาสู่ใจของเราอีก
3.เห็นอริยสัจจ์ คือตั้งใจปฏิบัติธรรมฝึกสมาธิต่อไปอีกอย่างยิ่งยวด จนเกิดปัญญาเห็นอริยสัจจ์ คือเห็นความจริงเกี่ยวกับโลกและชีวิตด้วยธรรมจักษุ
4.ทำนิพพานให้แจ้ง คือเมื่อเห็นอริยสัจจ์ในเบื้องต้นแล้ว ก็ตั้งใจเจริญภาวนาต่อไป ประคองใจหยุดนิ่งไปเรื่อยๆ พิจารณาอริยสัจจ์ไปตามลำดับให้ใจละเอียดอ่อนยิ่งขึ้นจนทำนิพพานให้แจ้งได้ กิเลสต่างๆ ก็ค่อยๆ ล่อนหลุดไปจากใจตามลำดับจนหมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ในที่สุด
มงคลหมู่ที่ 10 ผลจากการปฏิบัติจนหมดกิเลส
มงคลที่ 35 จิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม
มงคลที่ 36 จิตไม่โศก
มงคลที่ 37 จิตปราศจากธุลี
มงคลที่ 38 จิตเกษม
เมื่อเราอาบน้ำชำระล้างร่างกายเรียบร้อยแล้วก็จะมีผลตามมาซึ่งเราอาจบรรยายได้หลายลักษณะ เช่น ไม่สกปรก ไม่เลอะเทอะ ไม่เหนียวเหนอะหนะสะอาดสดชื่นผ่องใส
ในทำนองเดียวกัน เมื่อเราปฏิบัติฝึกฝนตนเองจนกิเลสต่างๆ ล่อนหลุดไปจากใจแล้ว เราก็อาจบรรยายสภาพจิตของเราในขณะนั้นได้หลายลักษณะ เช่น
1.จิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม คือมีความหนักแน่นเหมือนขุนเขา ไม่ยินดียินร้ายในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข หรือความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์อีกต่อไป
2.จิตไม่โศก คือหลุดพ้นจากยางเหนียวแห่งบ่วงสิเน่หา ไม่ลุ่มหลงในความรักอีกต่อไป มีใจที่อิ่มเอิบ ไม่แห้งผาก ผ่องใส ไม่เศร้าหมอง
3.จิตปราศจากธุลี คือกิเลสต่างๆ ทั้งหยาบทั้งละเอียดอ่อนหลุดจากใจหมด เหมือนหยาดน้ำตกจากใบบัวอย่างนั้น
4.จิตเกษม คือมีความสุข ปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้งหลาย อันเนื่องจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร สามารถตัดโยคะ เครื่องผูกสัตว์ ไว้ในภพทั้งสามได้ขาดสะบั้นโดยสิ้นเชิง จึงมีอิสระเสรีเต็มที่ มีใจที่สะอาดผ่องใสบริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง เข้านิพพานตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันตสาวกทั้งหลาย
บุคคลใด
ปฏิบัติตามมงคลเหล่านี้แล้ว
ย่อมเป็นที่นอนเนื่อง
แห่งโภคทรัพย์ทั้งหลาย
เป็นผู้ไม่รู้จักแพ้
ในทุกที่ทุกสถาน
และย่อมถึงความสวัสดีในที่ทั้งปวง
Cr.พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ
กราบขอบพระคุณที่มาของความสมบูรณ์ของบลอค :
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุครับ
ตอบลบสาธุ สาธุ สาธุ
ตอบลบอนุโมทนาบุญกับบทความที่ให้ความรู้และข้อคิดดีๆแบบนี้ครับ
ตอบลบ